ชวนวิเคราะห์ครีมกันแดดทาหน้า bk ในมุมมองส่วนผสม

เริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนอีกแล้วจ้าา มาค่ะทุกคน มาวิเคราะห์ครีมกันแดดทาหน้า ในมุมมองส่วนผสมกัน ว่าร้อน ๆ แดดแรง ๆ แบบนี้ ครีมกันแดดแบบไหนที่เหมาะกับผิวเรา แล้วครีมกันแดดแบบไหน จะปกป้องผิวของเราได้ครบจริง ๆ

 

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า “ครีมกันแดดทาหน้า” เป็นสกินแคร์ตัวสำคัญในรูทีนเลย เพราะว่าถ้าในรูทีนขาดครีมกันแดดทาหน้าไปสักตัว ฝ้าแดด กระแดด ริ้วรอยก่อนวัย ตามมาเล่นงานเราแน่นอน

 

และถึงแม้หลาย ๆ คนจะบอกว่า รองพื้นที่ใช้อยู่ ก็เป็นรองพื้นที่มีสารกันแดดแล้ว ยังจะต้องทาครีมกันแดดอีกทำไมกัน?? เอาเป็นว่าความรุนแรงของแดดบ้านเรา แค่รองพื้นที่ถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมของสารกันแดด ที่ใส่มาแค่น้อยนิดดด! ป้องกันผิวเราไม่ดีเท่าทาครีมกันแดดแน่นอน ยังไงเราก็ต้องพึ่งครีมกันแดดทาหน้ากันอยู่ดี อันนี้สำคัญเลยน๊าาาา ควรทาทุกวันเลย อยู่แค่ในบ้านก็ควรทา เพราะแสงอยู่กับเราทุกที่ทั้งแสงแดด แสงสีฟ้า รังสีอินฟาเรด หรือแม้แต่พวกฝุ่นต่าง ๆ ทำร้ายผิวเราได้ทั้งนั้นเลย ฉะนั้น ถ้าไม่อยากมีฝ้า กระ ริ้วรอยก่อนวัย กันแดดเท่านั้นจ้า

 

เห็นความสำคัญของครีมกันแดดทาหน้ากันแล้ว แล้ว แล้วยังไงคะ? ครีมกันแดดทาหน้าทุกวันนี้ คือออออออออ .. มีให้เลือกเยอะซะจน ยังไงดี จะให้ใช้ตัวไหนดี ใช้ตัวไหนถึงจะอ่อนโยน ใช้ตัวไหนถึงจะป้องกันผิวจากแดดแรง ๆ แบบนี้ได้ดี แล้วใช้ตัวไหนดี ผิวถึงไม่เป็นฝ้าเป็นกระ .. อันนี้ปัญหาโลกแตกปัญหานึงเลยนะคะ

 

วันนี้เราก็เลยอยากชวนทุกคนมาวิเคราะห์ครีมกันแดดทาหน้ากัน เอาในมุมมองส่วนผสมเลยว่าผิวแบบเรา ควรใช้ครีมกันแดดแบบไหน ต้องมีตัวไหน แบบไหน อะไรยังไง ถึงปกป้องผิวเราได้ครบจริง ๆ

ครีมกันแดดมีกี่ประเภท 

ก่อนอื่น มารู้จักแล้วก็ทำความเข้าใจครีมกันแดดทาหน้ากันก่อนดีกว่าทุกคน ครีมกันแดดถ้าแบ่งแบบเข้าใจกันง่าย ๆ เลย จะมีอยู่ 2 ประเภท คือครีมกันแดดทาหน้าแบบ Physical แล้วก็ครีมกันแดดทาหน้าแบบ Chemical .. Physical เป็นตัวที่อ่อนโยน เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายมาก ๆ ใช้อะไรก็แพ้ไปหมด ให้เลือกครีมกันแดดทาหน้ากลุ่มนี้ .. ถ้าแบบ Chemical ตัวนี้มีส่วนผสมของสารเคมี ผิวอ่อนแอ ผิวแพ้ง่ายมาก ๆ ไม่แนะนำครีมกันแดดประเภทนี้นะคะ ตัวนี้จะเหมาะกับผิวที่ไม่ได้แพ้ง่ายมาก

 

การทำงานของครีมกันแดดทาหน้าทั้ง 2 แบบ .. แบบ Physical เป็นกันแดดที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุที่ช่วยป้องกันรังสี uv โดยการตกกระทบผิวแล้วสะท้อนกลับ ก็คือถ้าแสงแดด หรือรังสี uv ส่องมาที่ผิวเรา ตัวกันแดดจะทำหน้าที่สะท้อนรังสี uv ออก ไม่ให้มีรังสียูวีผ่านเข้ามาทำลายผิวหนังได้

 

ส่วนแบบ Chemical .. เมื่อมีแสงแดดเข้ามาทำร้ายผิวเรา กันแดดประเภทนี้จะเปลี่ยนพลังงาน uv เป็นความร้อน ทำหน้าที่ดูดซึมรังสี uv โดยทำปฏิกิริยาไม่ให้แสงแดดเข้าไปทำร้ายผิวหนังเราได้ แบบ Chemical พอทเสร็จ ต้องรอสักพักก่อนนะคะ ค่อยออกแดดได้ แนะนำรอสัก 15 – 20 นาที

 

สรุปคือ เอาเป็นว่าเป็นครีมกันแดดที่ปกป้องผิวเราได้ทั้ง 2 แบบนั่นแหละทุกคน แต่อยู่ที่ว่าผิวหน้าของเราจะเหมาะกับครีมกันแดดแบบไหนเท่านั้นเอง อย่างแอดมิน จะเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย แล้วก็เป็นสิวง่ายมาก เวลาเลือกครีมกันแดดทาหน้า ก็จะเลือกตัวที่อ่อนโยน แล้วก็ไม่มีสารเคมีอย่างครีมกันแดดแบบ Physical แต่ทุกคนเลือกใช้ได้เลยนะ ขอแค่ทาทุกวัน เพราะว่าครีมกันแดดทาหน้าสำคัญกับผิวหน้าเราจริง ๆ

วิเคราะห์ครีมกันแดดในมุมมองส่วนผสม 

 

เอาล่ะทุกคน มาวิเคราะห์ในมุมมองส่วนผสมกันบ้างดีกว่า ว่านอกจากต้องเป็นครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวเราแล้ว ควรต้องมีส่วนผสมตัวไหน อะไรยังไงบ้าง ถึงจะเป็นครีมกันแดดทาหน้าที่ปกป้องผิวเราได้ครบจริง ๆ .. เดี๋ยววันนี้ ขอยกตัวอย่างเป็นครีมกันแดด bk แล้วกันนะคะ BK Perfect Protection Sunscreen SPF50+ PA++++  ลองมาวิเคราะห์ครีมกันแดดตัวนี้กัน .. ครีมกันแดด bk ตัวนี้ เป็นครีมกันแดดแบบ Physical .. ก็คือใช้ได้ทุกสภาพผิวเลย แต่ว่าเค้าจะทำมาสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

 

ตัวกันแดดเป็นกันแดดสูตรน้ำ 100% Non-Chemical Sunscreen ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีเลย ถ้าใครกลัวใช้แล้วแพ้ ก็ลองเทส ๆ ดูก่อนก็ได้นะคะ แต่เท่าที่ดูคือ ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน สเตียรอยด์ สารแต่งสี น้ำมัน แล้วก็ไม่มีสารกันแดดที่เป็นเคมีเลย ซึ่งดีกับผิวแพ้ง่าย เพราะโอกาสแพ้น้อยมากจริง ๆ ส่วนผสมก็มีทั้งตัวที่ช่วยป้องกันผิว ตัวที่ช่วยบำรุงผิว เดี๋ยวแนะนำกันทีละตัวเลยเนอะ

ตัวแรก  Centella Madecasoside Extract สารสกัดจากใบบัวบก ตัวนี้เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ bk acne เลยนะคะ ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการระคายเคืองผิว

 

Defensil Plus .. ช่วยปลอบประโลมผิวจากรอยแดง

 

Vitamin E .. ตัวนี้เข้ามาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทาแล้วผิวไม่เป็นขุย เราว่าส่วนผสมตัวนี้แหมาะกับผิวหลาย ๆ คนตรงที่ว่า เข้ามาช่วยทำให้ผิวเราชุ่มชื้น ไม่แห้ง ไม่เป็นขุย บางคนทากันแดด แล้วเป็นขุยเป็นคราบ 

 

Orchid Extract .. สารสกัดจากกล้วยไม้สายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ผิวรู้สึกยืดหยุ่น แล้วก็ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น

 

Marine Bamboo .. สารสกัดสาหร่ายขนาดใหญ่ใต้ท้องทะเลลึก “Giant brown Algae”  ช่วยปกป้องผิวจากรังสี Blue light หรือว่าแสงสีฟ้าจากแสงหน้าจอคอม หน้าจอโทรศัพท์มือถือ

 

Anti-pollution shield .. ตัวนี้น่าสนใจเลยนะคะ เพราะว่าเป็นเหมือนเกราะป้องกันผิว ที่ช่วยป้องกันผิวจากพวกมลภาวะอย่าง pm 2.5

 

IR Shield .. จุลินทรีย์สายพันธุ์พิเศษที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอินฟาเรด รังสีความร้อนที่ส่งตรงถึงโลกมากกว่า50%

ถ้าพูดถึงเรื่องการปกป้องผิว ถือเป็นครีมกันแดดทาหน้าที่ปกป้องได้ครบเลยนะ คือทาแล้วไม่กลัวอะ5555 เพราะว่าตัวนี้ปกป้องผิวครบเลย ทั้งรังสี uva uvb จากแสงแดด รังสี IR Protection หรือรังสีอินฟาเรด รังสี Blue Light หรือพวกแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ หน้าจอคอม แล้วก็ป้องกันผิวจากฝุ่น pm 2.5 ได้ด้วย

 

จากที่วิเคราะห์ในมุมมองของส่วนผสม ตัวนี้ถือว่าเป็นครีมกันแดดทาหน้าสาย Physical ที่น่าสนใจเลยนะคะ คือทาแล้วไม่กลัวแดดอะ เพราะว่าตัวกันแดดปกป้องผิวได้ครบจริง แต่ความกันแดดแบบ Physical จะมีข้อเสียอย่างนึงคือ ครีมกันแดดประเภทนี้หลาย ๆ เนื้อกันแดดจะแอบหนักกว่ากันแดดแบบ Chemical .. อย่างครีมกันแดด bk ตัวนี้ ที่ถึงแม้ว่าเนื้อครีมอาจจะบางเบา ไม่ได้หนักเหมือนครีมกันแดดแบบ Physical ทั่วไป แต่ก็จะหนักกว่าแบบ Chemical หลาย ๆ ตัวอยู่ดี

 

ทริคง่าย ๆ เผื่อใครใช้กันแดดแบบ Physical กันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย แล้วไปเจอครีมกันแดดตัวไหนเนื้อหนักเกินไป เวลาทากันแดด ให้รอเนื้อซึมแปปนึงแล้วค่อยแต่งหน้าทุกคน อย่าลงกันแดดแล้วรีบแต่หน้าเลย เดี๋ยวเป็นคราบ แต่ถ้าให้ดีก็พยายามเลือกตัวที่เนื้อไม่หนักเกินไปดีกว่า อย่าง ครีมกันแดด bk BK Perfect Protection Sunscreen SPF50+ PA++++ ตัวนี้ดีเลย

 

วิเคราะห์กันมาถึงตรงนี้แล้ว น่าจะเลือกกันแดดกันได้ง่ายขึ้นเนอะ สำคัญมาก ๆ คือ ต้องทานะ ควรทาทุกวันเลย เพราะอย่างที่บอกว่าครีมกันแดดทาหน้าสำคัญกับผิวเราจริง วันนี้แอดมินไปแล้วน๊า สวัสดีค่าาาาาา