ผิวแบบเรา ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบไหน มาดูกัน

คลีนซิ่งเช็ดหน้า เป็นขั้นตอนการทำความสะอาดผิวที่สำคัญมากเลยนะคะ .. สำคัญมากพอ ๆ กับการเลือกใช้คลีนซิ่ง ที่นอกจากจะต้องเช็ดผิวเราได้แบบสะอาดหมดจด และอ่อนโยนต่อผิวแล้ว ยังต้องเป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของเราด้วย .. วันนี้เราก็เลยอยากมาแชร์วิธีเลือกคลีนซิ่งเช็ดหน้ากัน ว่าผิวแต่สภาพผิว จริง ๆ แล้ว เหมาะกับคลีนซิ่งประเภทไหน .. ใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบไหนแล้วผิวเราจะสะอาดมากขึ้น.. 

คลีนซิ่งเช็ดหน้ามีแบบไหนบ้าง?

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งแบบน้ำ

คลีนซิ่งวอเตอร์ หรือคลีนซิ่งแบบน้ำ ถือว่าเป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่เหมาะกับทุกสภาพผิวเลยนะคะ โดยเฉพาะคนผิวมันที่อยากได้คลีนซิ่งที่ไม่มีส่วนผสมน้ำมัน .. ข้อดีของคลีนซิ่งวอเตอร์ คือเป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่ไม่เหนียวเหนอะหนะผิว ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้า แล้วก็เช็ดเครื่องสำอางเฉพาะจุดได้ดี แต่ว่าข้อเสียคือ เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ค่อนข้างยาก มีแค่เฉพาะบางตัวเท่านั้นที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ดี

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งออยล์

ต่อมาคลีนซิ่งออยล์  .. คลีนซิ่งออยล์ เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำผสมกับน้ำมัน ถือว่าเป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่เป็นที่นิยมเลยนะคะ ใช้กันเยอะเลย วิธีใช้ก็ใช่ง่าย แล้วก็สะดวกสบาย แค่เทคลีนซิ่งลงบนฝ่ามือนวดวนทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้เลย .. ข้อดีของคลีนซิ่งออยล์คือ  คลีนซิ่งออยล์เช็ดพวกคราบเครื่องสำอาง แล้วก็เครื่องสำอางกันน้ำออกได้ค่อนข้างดี แต่ว่าอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวมันมาก ๆ นะคะ

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งน้ำนม

คลีนซิ่งน้ำนม .. คลีนซิ่งน้ำสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนม เป็นคลีนซิ่งที่ทั้งทำความสะอาดผิว แล้วก็ช่วยบำรุงผิวไปในตัวได้ด้วย วิธีใช้ก็ง่าย ๆ เลย แค่เทคลีนซิ่งลงบนฝ่ามือ ถูเข้าด้วยกันเพื่อวอร์มคลีนซิ่ง จากนั้นนวดเบา ๆ บนใบหน้าจนคราบสกปรกและคราบเครื่องสำอางออกจนหมด เสร็จแล้วล้างออกให้สะอาด หรือว่าใช้สำลีแผ่นเช็ดออกก็ได้ค่ะ .. คลีนซิ่งเช็ดหน้าประเภทนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนผิวมันสักเท่าไหร่นะคะ เพราะว่าข้อเสียคืออาจจะมีบางยี่ห้อที่ใช้แล้วรู้สึกว่าเหนอะหนะผิว

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งเจล

คลีนซิ่งเจล .. คลีนซิ่งเนื้อเจล มีทั้งแบบใส แล้วก็แบบขุ่น ทำความสะอาดผิวหน้าได้ค่อนข้างดีเลย .. วิธีใช้ก็ง่าย ๆ แค่กดเนื้อเจลลงบนฝ่ามือ ถูเข้าด้วยกันเพื่อวอร์มคลีนซิ่ง แล้วก็นวดทำความสะอาดบนผิวหน้าได้เลย .. ข้อดีของคลีนซิ่งเจลอย่างแรกคือ ไม่เปลืองสำลีแผ่นแน่นอน เพราะว่าเราใช้มือของเรานวดทำความสะอาด แล้วคลีนซิ่งเจลถือว่าเป็นคลีนซิ่งที่ช่วยบำรุงผิวเราไปในตัวด้วย แต่ว่าข้อเสีย คนผิวมันหน้ามันมาก ๆ อาจจะต้องระวังนะคะ เพราะว่าบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของน้ำมันมาด้วย 

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งบาล์ม

คลีนซิ่งบาล์ม เป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่ถือว่าเข้มข้นเลยนะคะ วิธีเช็ดทำความสะอาดแค่ใช้มือนวดเบา ๆ ก็ทำความสะอากคราบสกปรกได้แล้วล่ะค่ะ ข้อดีของคลีนซิ่งบาล์มคือ เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ข้อเสียคือเนื้อคลีนซิ่งบาล์มอาจจะเหนียวเหนอะผิว 

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งครีม

คลีนซิ่งครีม .. คลีนซิ่งเนื้อครีมค่อนข้างเหนียว แล้วก็เข้มข้นเลย ข้อดีของคลีนซิ่งเนื้อครีม เป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่ทำความสะอาดพวกคราบเครื่องสำอางได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่ว่าข้อเสียของเนื้อคลีนซิ่งครีมคือ เนื้อคลีนซิ่งอาจจะหนักเกินไป เนื้อเข้มข้นไป แล้วก็ไม่เหมาะกับคนที่ผิวมัน

 

คลีนซิ่งเช็ดหน้า : คลีนซิ่งแบบแผ่น 

แล้วก็สุดท้าย คลีนซิ่งแบบแผ่น ข้อดีของคลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบนี้คือ เป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่ใช้ได้ทุกสภาพผิว สะดวก แล้วก็ใช้งานง่าย แต่ว่าข้อเสียของคลีนซิ่งแบบแผ่นคือ อาจจะเช็ดทำความสะอาดพวกคราบสกปรกเครื่องสำอางได้ยาก เช็ดไม่สะอาดมากพอ 

ผิวเราเหมาะกับคลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบไหน?

 

ผิวธรรมดา

 

ผิวธรรมดา ..จริง ๆ ผิวธรรมดาส่วนมากจะไม่ค่อยมีปัญหาผิวมาก ผิวไม่ได้แห้ง ไม่ได้มัน แต่ผิวจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมมากกว่า .. สำหรับผิวธรรมดา แนะนำเป็นคลีนซิ่งน้ำนม เพราะว่าคลีนซิ่งน้ำนม เป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง แล้วก็ไม่ได้เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเรามากจนเกินไป

 

ผิวมัน

 

ผิวมัน คือผิวผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป ก็เลยมีคราบความมันส่วนเกินค่อนข้างเยอะ คลีนซิ่งเช็ดหน้าที่เลือกใช้ควรเป็นคลีนซิ่งแบบน้ำนะคะ .. Oil Free ไม่ควรใช้คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของน้ำมัน 

 

ผิวแห้ง

 

คนผิวแห้ง คือผิวผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวน้อยเกินไป ทำให้ผิวของเราขาดความชุ่มชื้น แห้งตึง ระคายเคืองง่าย  เพราะฉะนั้น สำหรับคนผิวแห้งอาจจะต้องเลือกคลีนซิ่งเช็ดที่ทำความสะอาดผิวได้ดี แล้วก็ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว อย่างคลีนซิ่งหน้าแบบครีม หรือแบบออยล์

 

ผิวผสม

 

คนผิวผสมคือคนที่หน้ามันแค่ช่วงบริเวณ T – Zone เท่านั้น (หน้าผาก จมูก คาง) .. แนะนำใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบน้ำ หรือแบบน้ำนม .. ควรเลี่ยงคลีนซิ่งเช็ดหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันนะคะ เพราะว่าอาจจะทำให้มีความมันส่วนเกินช่วง T – Zone มากขึ้น แล้วก็อาจจะทำให้เราเป็นสิวนั่นเองค่ะ

 

ผิวแพ้ง่าย

 

คนที่ผิวแพ้ง่าย จะแพ้พวกสกินแคร์อะไรแบบนี้ง่ายมาก สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายมาก ๆ อาจจะต้องเลือกกันที่ตัวคลีนซิ่งเช็ดหน้าแล้วล่ะค่ะ ควรเป็นตัวที่เหมาะกับทุกสภาพผิว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย อ่อนโยน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แล้วก็ต้องไม่มีสารที่ทำให้ระคายเคืองผิว อย่าง Cleansing Water ... BK Sensi Perfect Rose Cleansing Water 

……

คลีนซิ่งกุหลาบ BK Sensi Perfect Rose Cleansing Water .. ตัวนี้เป็นคลีนซิ่งเช็ดหน้าแบบน้ำนะคะ เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่ายมาก ๆ เพราะว่าตัวคลีนซิ่งกุหลาบ bk ไม่มีส่วนผสมหรือสารที่ทำให้ระคายเคืองผิว ถือว่าอ่อนโยนกับผิวมาก .. ส่วนใครที่อาจจะกังวลว่าคลีนซิ่งแบบน้ำจะทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ไม่สะอาดพอ ไม่ต้องกังวลเลย เพราะว่าเค้าใช้นวัตกรรมทำความสะอาดผิว Micellar Technology ที่ทำความสะอาดผิวได้ล้ำลึก อ่อนโยน เข้าไปทำความสะอาดสิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางฝังลึกได้สะอาดหมดจด ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ แต่คงความชุ่มชื้นเอาไว้

 

แล้วก็ที่น่าสนใจคือ เค้ามีสารสกัดจาก Rose Centifolia Flower Water  ที่ช่วยปกป้องผิวเราจากอนุมูลอิสระ แล้วก็ทำให้ผิวเราดูอ่อนเยาว์ด้วยนะคะ .. ใครที่อยากทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด อ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิวแนะนำเลย ตอนนี้สามารถหาซื้อได้แล้วนะคะ ที่ Watsons Konvy.com Shopee Lazada เพจ BK Sensi แล้วก็ตามตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเลย